สุขภาพ คือ เราได้ยินได้ฟังกันอยู่บ่อยๆ แต่จริงๆ แล้วการใช้ชีวิตแบบรักสุขภาพนั้นหมายถึงอะไร การรับประทานถั่วงอกเป็นอาหารเช้าหรือเปล่า การโหมวิ่งในตอนเช้าตรู่ รับประทานแต่ผักกาดหอมเป็นอาการกลางวันอย่างนั้นหรือ คำตอบคือไม่ใช่เลย การใช้ชีวิตแบบรักสุขภาพไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องอดอาหารหรือโหมทดสอบความแข็งแกร่งของร่างกาย มันคือการที่เราสามารถรักษาความสมดุลระหว่างร่างกาย จิตใจ การรับประทานอาหาร และมุมมองเรื่องของจิตวิญญาณสุขภาพที่ดีใครๆ ก็อยากมี เเละก็อยากให้คนที่เรารักสุขภาพดี อยู่กับเราไปนานๆ เเต่วิถีการใช้ชีวิตในปัจจุบันมีสิ่งยั่วยุต่างๆ มากมาย ที่ทำให้การสร้างสุขภาพที่ดีนั้นมีอุปสรรคเต็มไปหมดสร้าง “ความสมดุล” อย่างคร่าวๆ
ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ รวมถึงการดื่มน้ำให้เพียงพอ และการควบคุมปริมาณของการบริโภคแอลกอฮอล์เป็นเมนูที่ดีสำหรับอาหารที่สมดุล หากรับประทานไขมันหรือคาร์โบไฮเดรตมากไปจะส่งผลกระทบต่อความสมดุลนี้ได้อย่างง่ายดาย ลองถามตัวเองว่าคุณออกกำลังกายบ่อยแค่ไหน การเดินในระยะสั้นๆ ก็ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายได้เหมือนกัน แล้วการพักผ่อนล่ะ คนส่วนใหญ่มักพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ และอื่นๆ อีกมากสามารถส่งผลกระทบโดยตรงต่อน้ำหนัก อารมณ์ ความคิด และการรับรู้ทั่วๆ ไปเกี่ยวกับสุขภาพ ซึ่งเราหมายถึง “ความสมดุล” ในชีวิตของคุณนั่นเอง
การออกกำลังกาย สุขภาพ คือ
สุขภาพ คือ ถ้าหากคุณไม่เคยออกกำลังกายเลย คุณกำลังพลาดโอกาสดีๆ ไปมาก เพราะการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม สามารถช่วยให้คุณรู้สึกกระชุ่มกระชวยมีพลังและตื่นตัวมากขึ้น การออกกำลังกายยังช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลายอย่าง ถึงเวลาแล้วที่จะลุกขึ้นมาสลัดความขี้เกียจและเริ่มออกกำลังกายกันการออกกำลังกายนอกจากจะได้สุขภาพที่ดี เพราะอวัยวะภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเเล้ว ยังทำให้เรามีภูมิต้านทาน ห่างไกลโรคภัยต่างๆ สุขภาพจิตก็ดีตามไปด้วย ควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาทีหลังเลิกงาน เเต่หากใครไม่มีเวลาจริงๆ งานบ้านก็อาจช่วยได้เหมือนกัน เเถมยังทำให้บ้านสะอาดเรียบร้อยอีกด้วยนะครับสร้างให้คนที่คุณรักมีสุขภาพดี ทำตามเเล้วรับรองว่าชีวิตเปลี่ยนเเน่นอนครับ
โภชนาการ
โภชนาการ การบริโภคอาหารในปริมาณที่พอเหมาะคือวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการลดน้ำหนักได้สำเร็จ ถ้าหากคุณรับประทานอาหารที่เหมาะสม ร่างกายของคุณก็จะสามารถทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้เราแข็งแรงขึ้นและมีพลังทำสิ่งต่างๆ ที่ต้องการได้มากขึ้นด้วยปฎิเสธไม่ได้เลยว่า อาหารเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญต่อร่างกายมาก การจะเกิดผลดีหรือผลเสียนั้น ขึ้นอยู่กับการเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสมเพราะร่างกายจะนำวิตามิน เเละสารอาปารไปพัฒนา ซ่อมเเซมส่วนต่างๆ ของร่างกาย ควรลดอาหารที่มีเเคลอรี่สูง ไขมันเยอะ ทางที่ดีควรเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม เเละของที่มีเเต่ประโยชน์นะครับ
ความเครียด
ความเครียด ทุกคนย่อมเคยเผชิญหน้ากับความเครียดกันมาทั้งนั้น เพราะมันเป็นเรื่องปรกติของชีวิตเรา แต่การสั่งสมความเครียดมากๆ เป็นเวลานานสามารถส่งผลอันตรายต่อร่างกายของคุณได้ รวมไปถึงทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ด้อยประสิทธิภาพลง เพื่อเอาชนะความเครียดนี้ ให้คุณตระหนักถึงสิ่งที่กระตุ้นความเครียดของคุณ และลองหาทางจัดการควบคุมมัน
การพักผ่อน
การพักผ่อน บางคนโชคดีได้นอนหลับสนิทและยาวนานทั้งคืน แต่บางคนก็ไม่ได้โชคดีขนาดนั้น พวกเราทุกคนต่างรู้ดีว่าการนอนหลับสนิทในยามค่ำคืนนั้นสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากต่อความรู้สึกของคุณ เลือกเวลาเข้านอนที่จะทำให้คุณตื่นเช้าในวันรุ่งขึ้นได้เองโดยไม่ต้องพึ่งนาฬิกาปลุก ดื่มเครื่องดื่มนมมอุ่นๆ แล้วเข้านอนเวลาเดิมเป็นประจำทุกคืน และถ้าหากเป็นไปได้ให้หาเวลางีบในช่วงสุดสัปดาห์บ้างเมื่อเวลาว่างตรงกัน ลองชวนคนที่คุณรักไปทำกิจกรรมต่างๆ เช่นดูหนัง เดินห้าง ทานข้าวนอกบ้าน ดีกว่าการอยู่บ้านเเล้วเล่นเเต่โทรศัพท์ทั้งวัน เพราะจะทำให้เกิดผลเสียที่หลายคนอาจมองข้าม ทั้ง จอประสาทตาเสีย เสียสมาธิ เเละทำให้ปวดศรีษะได้เมื่อทำกิจวัตรต่างๆ ในเเต่ละวันเสร็จเรียบร้อยเเล้ว การพักผ่อนที่ดีที่สุด คือ การนอน เพราะร่างกานจะได้ซ่อมเเซมฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ ควรนอนให้ครบ 8 ชั่วโมง เเละนนอให้เป็นเวลา เพราะหากนอนดึกเกินไปร่างกายอาจเหนื่อยล้าได้ อีกทั้งยังมีผลเสียตามมามากมาย การพักผ่อนเพียงพอจะทำให้การตื่นเช้ามารับวันใหม่สดชื่น เเละตื่นตัวตลอดทั้งวัน สุขภาพก็จะดีตามไปด้วย
ทัศนคติ
ทัศนคติ คงไม่มีใครคาดหวังให้คุณเดินยิ้มได้ตลอดเวลา แต่การตอบสนองทางอารมณ์ของคุณสามารถส่งผลถึงการทำงานของร่างกาย ตั้งเป้าฝึกฝนให้มีทัศนคติด้านบวกเข้าไว้ คุณอาจทำได้จากการใช้เวลาอยู่กับคนที่สนุกสนานและมองโลกในแง่ดี หรือ่านหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจ และให้อ่านเคล็ดลับทั้งหมดใหม่อีกครั้ง การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ต่อทัศนคติของคุณได้ ขอให้คุณจงเริ่มฝึกฝนทัศนคติด้านบวกบ่อยๆ เพราะนั่นเป็นหนึ่งในอาวุธที่ดีที่สุดของคุณการทำให้สมองมีความฉลาดหลักแหลมนั้นเราต้องฝึก เเละทำในสิ่งที่ท้าทายโดยการทำกิจกรรมฝึกสมองประจำจะมีสมองที่ชาญฉลาดมากกว่าคนที่นั่งเฉยๆ เเละไม่ฝึกทำอะไรเลย การฟังวิทยุ การเล่นเกม หรือการเรียนภาษาเพิ่มเติม สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้สมองมีการพัฒนามากขึ้น สุขภาพ คือ