สุขภาพ กาย และ สุขภาพ จิต ในภาวะสังคมปัจจุบันนี้นอกจากเราจะดูแลสุขภาพกายแล้ว สุขภาพจิต หรือ สุขภาพใจก็ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่เราไม่ควรละเลย เพราะสุขภาพจิต คือ สภาวะจิตใจ อารมณ์ ความคิด ที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสังคมและสิ่งแวดล้อมรอบข้างเพื่อดำรงชีวิตอย่างเป็นปกติสุขยิ่งถ้าเรามีสุขภาพจิตที่ดี ก็จะสามารถทำให้เราดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขในทางกลับกันหากเราไม่ใส่ใจดูแลสุขภาพจิต ทำให้เรามีสุขภาพจิตที่ไม่ดี ก็จะส่งผลกระทบต่อตัวเราในการดำเนินชีวิต หลาย ๆ ด้านเช่น ทำให้นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะไมเกรน ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็ง เป็นต้น
สังคมเดี๋ยวนี้เต็มไปด้วยความเครียด เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังฝืดเคืองและความไม่แน่นอนของเสถียรภาพทางการเมืองไทย ทำให้คนวัยทำงานเกิดความเครียดได้ง่าย โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในสังคมเมือง ผลที่ตามมาคือโรคทางจิตต่างๆ เช่น โรคซึมเศร้า โรคย้ำคิดย้ำทำ ไบโพลาร์ เป็นต้น อย่าปล่อยให้ตนเองตกเป็น 1 ในผู้ป่วยเหล่านั้น ถึงแม้เราจะเปลี่ยนแปลงสังคมไม่ได้แต่สามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้จิตใจอ่อนแอจนกลายเป็นผู้ป่วยได้ด้วยตนเอง วันนี้มาพบกับ 10 วิธีสร้างความสุขตามคำแนะนำจากกรมสุขภาพจิตกัน
การตรวจสุขภาพ
สุขภาพ กาย และ สุขภาพ จิต โดยกรมสุขภาพจิตได้ทำแบบสำรวจจากข้อมูลสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ในรอบ 3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2558-2560 พบว่าผู้ใช้บริการมากที่สุดคือกลุ่มวัยทำงาน อายุ 22-59 ปี จำนวน 105,967 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 62 ของผู้ใช้บริการทั้งหมด169,728 ครั้ง อันดับ 1 ร้อยละ 36 คือเรื่องการกินยารักษาอาการป่วยทางจิตใจ ,อันดับ 2 ร้อยละ 28 คือความเครียดหรือวิตกกังวล เช่นกังวลเกี่ยวกับอนาคต เรื่องคนอื่น เรื่องทั่วๆไป , อันดับ 3 ร้อยละ 10 เรื่องปัญหาสารเสพติดประโยชน์สำคัญที่สุดของโยคะ คือการบำบัดกายและจิต ทางกายนั้นที่เห็นได้อย่างชัดเจน
คือการบรรเทาไปจะถึงรักษาอาการปวดต่าง ๆ ลึกไปถึงระดับการทำงานภายในร่างกาย ลดความเป็นพิษที่เกิดจากกระบวนการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย สามารถชะลอควาเสื่อมของเซลล์ได้เคยได้ยินกันมาบ้างแล้วเกี่ยวประโยชน์ของโยคะ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ไม่อยากออกกำลังกายเป็นใช้แรง ยังมีอีกหลายคนที่อยากลอง แต่อาจจะยังลังเลใจที่จะเล่น วันนี้ เรามีเรื่องราวเกี่ยวกับโยคะ มาบอกกันนอกจากนี้การฝึกโยคะ ช่วยรักษาสมดุลให้กับระบบประสาทและการคัดหลั่งฮอร์โมนที่มีอิทธิพลโดยตรงต่อระบบร่างกายทั้งอวัยวะ โยคะ จึงเป็นการรักษาและป้องกันโรค ไปในตัว ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ โยคะยังให้คุณประโยชน์กับร่างกายอื่น ๆ
และเพื่อช่วยประชาชนไทยให้มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นกรมสุขภาพจิตจึงออกประกาศแนะนำวิธีสร้างความสุขง่ายๆรายวันให้แก่ตนเองในการทำงาน มีข้อแนะนำ 10 ข้อดังนี้
1. ทบทวนถึงสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ชื่นชมข้อดีของตนเองและผู้อื่น พร้อมเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความสุข
2. มีอารมณ์ขันและส่งยิ้มให้กันอยู่เสมอ
3. กล่าวคำขอบคุณให้เป็นนิสัย และขอโทษเมื่อทำผิด
5. ตั้งเป้าหมายถึงสิ่งที่จะทำให้ชีวิตมีความสุข และลงมือทำให้สำเร็จ
6. หยุดคิดเล็กคิดน้อย ยอมรับข้อบกพร่องของผู้อื่น
7. จัดสรรเวลาให้สมดุล ตามหลัก 8-8-8 คือทำงาน 8 ชั่วโมง เวลาที่เหลืออีก 2 ส่วนคือการนอนหลับและให้เวลากับครอบครัว
8. ใส่ใจสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3-5 วัน ช่วยคลายความเครียด นอนหลับดีขึ้น หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุราและสารเสพติด
9. ออฟไลน์ออกจากโลกโซเชียล แล้วหันมาพูดคุย ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับคนใกล้ชิดและคนรอบข้าง
10. ทำงานอดิเรกที่ชอบหรือทดลองทำอะไรใหม่ๆ
ยึดหลักความพอเพียงในการดำเนินชีวิต พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ผลวิจัยยืนยันว่าคนทำงานที่มีความสุขจะเพิ่มผลผลิตมากกว่าคนทำงานที่ไม่มีความสุขถึงร้อยละ 20 และนี่ก็คือ 10 วิธีสร้างความสุขง่ายๆจากกรมสุขภาพจิต ดังนั้นใครกำลังจิตตกอยู่สามารถนำแนวทางเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูได้ แต่สำหรับคนที่สภาพจิตใจดีอยู่หากทำตามแนวทางนี้ก็จะยิ่งทำให้จิตใจคุณแข็งแรงยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามใครคิดว่าตนเองกำลังจิตตกและไม่สามารถเยียวยาได้ด้วยตนเองแล้ว ขอแนะนำให้ปรึกษากรมสุขภาพจิต สายด่วน 1323
การร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาบริการด้านสุขภาพจิตและจิตเวชในประเทศไทย
การสาธารณสุขบ้านเราเจริญพัฒนาทัดเทียมนานาอารยประเทศและเหนือกว่าหลายประเทศ ภาครัฐและเอกชนจำเป็นต้องทำงานร่วมกัน โดยต้องอาศัยความร่วมมือ 3 ฝ่ายได้แก่ภาครัฐ เอกชน และองค์กรวิชาชีพ งานสุขภาพจิตเป็นงานเฉพาะด้านที่ต้องอาศัยองค์ความรู้และบุคลากรผู้ชำนาญการ ซึ่งภาครัฐมีองค์กรรับผิดชอบในการพัฒนาด้านนโยบายองค์ความรู้ในการดูแลรักษาและส่งเสริมสุขภาพจิต ตลอดจนบุคลากรผู้ชำนาญการ ซึ่งช่วยสนับสนุนด้านการอบรม ขณะที่ภาคเอกชนมีจุดแข็งในด้านศักยภาพในการพัฒนางานบริการเฉพาะด้านสู่ความเป็นเลิศมาตรฐานสากล โดยคำนึงถึงความต้องการของผู้ป่วยและญาติเป็นสำคัญ
การพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนหรือภาคประชาชนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่โรงพยาบาลกรุงเทพให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือทางด้านการพัฒนาบริการ การศึกษาอบรม พัฒนาวิชาการ พัฒนาบุคลากร การทำวิจัย เป็นต้น รวมถึงการพัฒนาเครือข่ายสุขภาพ ภาคประชาชน ทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านเราทราบว่ากรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการพัฒนาการบริการด้านสุขภาพจิตและจิตเวชในโรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชน ตลอดจนการพัฒนาความร่วมมือทางวิชาการด้านสุขภาพจิตในระดับนานาชาติ ทั้งในระดับ Sub – แม่โขง Region, ASEAN และระดับโลก ซึ่งเป็นนโยบายที่สอดคล้องกับการดำเนินงานของโรงพยาบาลกรุงเทพ สุขภาพ กาย และ สุขภาพ จิต